๏ ๏ ๏
พิมกลับมาถึงบ้านในตอนสองทุ่มและพบว่าต้องแฟนหนุ่มของเธอมารออยู่ตั้งแต่หกโมงเย็น รถต้องจอดนิ่งอยู่หน้าบ้าน แม่กระซิบบอกเธอจากข้าง ๆ ห้องส้วม
เฮ่อ!
พิมบ่นกับตัวเอง: พิมแม่งเซ็งชิบหาย เพิ่งกลับมาเหนื่อย ๆ แล้วยังมีงานที่ต้องทำอีกล่ะ แล้วอะไรกันเนี่ยว๊ะ!
ก็เพิ่งทะเลาะกันมาหยก ๆ ทะเลาะกันทางโทรศัพท์สามชั่วโมงเต็ม ๆ
พิมคิด: พิมเกลียดการทะเลาะกันทางโทรศัพท์ที่สุด
พิมคิด: เหมือนคนบ้าที่พยายามตวาดใส่หูของตนเอง
พิมบ่นกับตัวเองต่อ: พูดกันไม่เข้าใจ แล้วจะมาให้เจอกันทำไมเนี่ย!
ต้องยิ้มให้พิมเป็นการทักทาย พิมยื่นถุงกาแฟเย็นที่ซื้อจากหน้าปากซอยให้ ต้องรับมาถือไว้
"ต้อง" พิมพูด: "เธอกลับไปก่อนได้ไม๊ ไว้ค่อยคุยกันวันหลังเถอะนะพิมขอร้อง วันนี้พิมเหนื่อย พิมอยากพัก"
พิมเดินขึ้นไปข้างบน ทิ้งต้องนั่งงงอยู่บนโซฟา
ในห้องนอน พิมในชุดนักศึกษารัดร่างเพียวบางของเธอไว้
หน้าอกเธอเต่งตูมมาตั้งแต่อายุ 13 ปี สวยและไม่ใหญ่ไม่โตขึ้นไปกว่าที่เคยเป็นอยู่ในตอนนั้น
ตอนนี้พิมอายุ 18 ปีเต็ม สะโพกของเธอกระทัดรัดพอเหมาะพอเจาะรับพอดีกับต้นขาเรียวยาวขาวสดใส
พิมถอดเสื้อ ถอดกระโปรงออก โยนมันเข้าตะกร้าผ้า
เธอยื่นใบหน้าเข้าหากระจก ยิ้มยิงฟัน เอามือรวบผมยาวข้างหลัง รัดมันเข้าด้วยกันด้วยหนังสะติ๊กสีส้ม
พิมคิด: หน้ามันชิบหาย ล้างหน้าสักหน่อย
สักครู่พิมคิดอีก: ไม่มีเวลาแล้ว ช่างมัน แต่อยากแปรงฟันก่อนจัง
เธอหยิบกางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามที่พาดไว้บนเตียงเอามาสวมใส่
อ้าว ยังไม่ไปอีก
พิมพูดเมื่อเห็นต้องยืนอยู่หน้าห้อง: พิมจะทำงานต้องเข้าใจไม๊!
พิมคิด: แม่งจะเอาอะไรกะกูนักว๊ะ!
พิมพูดต่อ: เอ้า เอ้า แล้วทำไมจะต้องเป็นตอนนี้ เอ้าต้อง พิมขี้เกียจแล้วเข้าใจไม๊ ต้องเข้าใจพิม เอ้า!
พิมคิด: น่าเบื่อชิบหาย แม่งพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง
พิมพยายามพูดอย่างใจเย็น: ต้อง ต้องเข้าใจไม๊
พิมไม่อยากทะเลาะกับต้องแล้วน๊า ไม่ช่าย พิมไม่ได้ทำอย่างต้องไม่มีค่า ต้องเป็นตัวอะไร? นั่นดิตัวอะไรล่ะ?
ต้องก็เป็นต้อง เป็นแฟน แล้วไง?
พิมพูดตัดบทขณะที่ต้องกำลังพยายามอธิบาย: ไว้คุยกันวันหลังเถอะ พิมต้องทำงานนะ นะ อะไร? สำคัญ ก็สำคัญ
พิมตวาดใส่ต้อง: ต้องเข้าใจไม๊ มันเป็นงาน!
พิมคิดในขณะที่เดินเข้าไปในห้องคอมฯ: เหี้ยเอ๊ย แม่ง!
พิมเสียบปลั๊กไฟ เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขณะเดียวกับก็ชำเลืองมองดูต้องที่บ่นไม่หยุดอยู่หน้าห้อง
พิมตวาดซ้ำ: พอได้ไม๊ต้อง พิมรู้สึกว่าต้องแย่ลงทุกทีแล้วนะ ห๊ะ! ต้องอยากให้พิมเบื่อต้องยังงั้นใช่ไม๊?
ชายหนุ่มโมโหจนตัวสั่นแต่ยังไม่ยอมหยุดปาก เขาเอ่ยอ้างเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตกินเวลาเกือบ 5 นาที
ความอดทนของพิมสิ้นสุด เธอเลยเขวี้ยงด้วยขวดน้ำพลาสติกโดนเข้าที่แก้มขวาของเขาดัง: เพี๊ยะ!
แก้มขวาของต้องบวมเป่งแดงก่ำดังลูกตำลึงสุก ปากเบะ น้ำตาหยดแหมะออกมาเป็นสาย
ต้องปรี่เข้ามาหาพิมพร้อมคำพูดหลากหลายที่ฟังแล้วหาความเข้าใจมิได้ หากแต่น้ำเสียงยังคงติดตรึงอยู่ในหัวของพิมนานนับชั่วโมงหลังจากนั้น
แล้วถุงกาแฟเย็นในมือต้องก็ประเคนลงบนร่องระบายอากาศจอคอมพิวเตอร์เสียงดังฉ่า
ตามติดด้วยกลุ่มควันและการกระชากเครื่องคอมพิวเตอร์ลงมานอนแหมะลงที่พื้นอย่างหมดท่า ไร้สิ้นเสียงครางใด ๆ ของอวัยวะเครื่อง
ความเงียบงันกินเวลาประมาณ 35 วินาที ก่อนที่ต้องจะค่อย ๆ เบือนกายเดินลงบันไดไป
เสียงสตร๊าทรถจึงตามมา พิมนั่งก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้พูดลอย ๆ ออกมา: เสร็จกัน!
๏ ๏ ๏
ข้าพเจ้าส่งสัญญาให้ไอ้suchรู้เมื่อเห็นไฟในห้องของเธอสว่างวาบขึ้น
ไอ้suchที่เตรียมตัวไว้อยู่แล้วเริ่มต้นวิธีการค้นหาของมันทันที
ไอ้suchเป็นเพื่อนที่ข้าพเจ้าเชื่อถือในความสามารถ มันเป็นแฮกเกอร์มือดีคนหนึ่ง
suchness: “โอเคไอ้ก๊อต แม่งต่อเข้าเนตแล้ว ตอนนี้มันทำอะไรอยู่ “
ข้าพเจ้า: “นั่นแหละกำลังนั่งอยู่ แต่ยังไม่ได้พิมพ์อะไร มึงเจออะไรมั่งว๊ะ?”
suchness: “ยัง ๆ เดี๋ยวนะ เจอแล้ว เจอไฟล์ชื่อ พิม กูกำลังจะเข้าไป”
ข้าพเจ้า: “ดี ๆ (ข้าพเจ้าตะโกนขึ้นดัง ๆ )แล้วนี่ไอ้นิดอยู่ไหนว๊ะ?”
สมบัติ[ตะโกนตอบกลับมา]: “ดูวีดีโอโป๊อยู่กับกู”
ข้าพเจ้า: “เหี้ยกล้วยล่ะ?”
สมบัติ: “ออกไปกะพี่หยองไปซุ่มดูลาดเลาไง”
ข้าพเจ้า: “ยังไม่เสร็จอีกเหรอ แล้วไอ้เหี้ยตอล่ะ”
สมบัติ: “อยู่ในห้องน้ำนั่นน่ะ”
ข้าพเจ้า: “ขี้เหรอ?”
สมบัติ: “กูว่าว่าวว่ะ”
ข้าพเจ้า[อุทาน]: “เย็ดเหี้ย!”
๏ ๏ ๏
คราแรกที่ข้าพเจ้าเจอเธอ เราเป็นคนแปลกหน้าที่เดินสวนกัน
บนถนนในซอย เมื่อข้าพเจ้าเดินสวนกับเธอนั้น ข้าพเจ้าต้องตาต้องใจกับใบหน้าแสนหวาน หุ่นเพรียวระหงสะโพกกลมกลึงขนาดพอดีงาม
ก้าวเดินของเธอมั่นคงกำลังดี ไม่เร่งร้อนและไม่เฉื่อยเนือย สง่างามดั่งเช่นชุดนักศึกษาที่เธอสวมใส่
หลังจากวันนั้น ข้าพเจ้าก็พบความจริงที่ว่า ไม่ใกล้ไม่ไกล เธออยู่ข้างบ้านข้าพเจ้านี่เอง
หลายเดือนที่ข้าพเจ้าเดินสวนกันกับเธอ ส่วนใหญ่เวลาเย็น เธอเดินกลับแขนขาวหนีบแฟ้มเล่มโต
นิ้งกลางมือซ้ายห้อยไว้ด้วยถุงกาแฟเย็นแกว่งไปแกว่งมา
หลายครั้งข้าพเจ้าแกล้งมองจ้องที่ถุงกาแฟเย็นที่มือเธอ ข้าพเจ้าอดยิ้มไม่ได้เมื่อเหลียวมาเห็นเธอยกมันขึ้นมาดูยามเดินพ้นข้าพเจ้าไป
จนมาวันหนึ่ง เมื่อข้าพเจ้าเห็นเธอเดินอยู่ข้างหน้าพร้อมถุงกาแฟเย็น
หญิงในร้านเสริมสวยเรียกเธอว่า “พิม” เธอยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น
หัวจิตหัวใจข้าพเจ้ารำพึงออกมาทันทีเป็นคำว่า “น่ารัก”
แล้วข้าพเจ้าก็ต้องตะลึงเมื่อเงื่อนไขบางอย่างเข้ามาข้องเกี่ยวกันโดยไม่ทันได้รู้ตัว
หลายครั้งที่ข้าพเจ้าดีใจเมื่อเห็นไฟในห้องเธอสว่างขึ้น เธอนั่งลงข้างหน้าเครื่องคอมฯ
ไหล่เธอขยับขึ้นลงเล็กน้อยขณะที่เธอกำลังพรมนิ้วมือลงบนแป้นคีย์บอร์ด
ข้าพเจ้าแทบได้ยินเสียง ต๊อก แต๊ก ต๊อก แต๊ก ดังแว่วมาจากห้องของเธอ
มันเป็นความปลาบปลื้มในใจ เธอกับข้าพเจ้าเล่นเนตพร้อม ๆ กัน
แต่มันกลับเป็นเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้ข้าพเจ้าเสียววูบไปทั้งกายเมื่อคำว่า พิม กับ คำว่า น่ารัก มาต่อเข้าด้วยกัน
*** โอ๊ย! ไม่ทันแล้วว่ะ เขียนไม่เสร็จแน่ ๆ ล่ะ ยอมเว๊ย พยายามปั่นเต็มที่แล้ว ดูบอลเพลินไปหน่อย เอาเป็นว่าถือว่ามาร่วมงานบุญละกันนะ
เอาสนุก ๆ น่ะ อย่าว่ากูเลย เย็ดตะแม่งเอ๊ย! คิดตอนไคล์แม็กส์ไว้แล้วล่ะ จี้ดีเหมือนกัน แต่เขียนไม่ทันจริง ๆ ***
โดยคุณ : พระเจ้า - [ 22 มิ.ย. 45 - 23:58:29 น. ]
ที่มา : https://web.archive.org/web/20020626180743/http://www.motel99.com/lhudlok/board/data/123969.htm
😵 สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ถ้าตัวหนังสือเล็กเกินไป
กด Ctrl + "เครื่องหมายบวก" เพื่อขยายข้อความ
อยากให้ใหญ่แค่ไหน ก็กด "เครื่องหมายบวก" ไปหลาย ๆ ที
กด Ctrl + "ศูนย์" เพื่อกลับขนาดเดิม